ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์Siam Southern News Center Online0618919424

การประชุมวิชาการ RU CONNEXT ครั้งที่ 2
 1 กันยายน 2568 การประชุมวิชาการจัดขึ้น ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี ม.สงขลานครินทร์ 
พร้อมด้วยอธิการบดี รองอธิการบดี มทร.ศรีวิชัย รองอธิการบดี มรภ.สงขลา ม.ทักษิณ ม.วลัยลักษณ์ ม.นราธิวาส สจล.วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พร้อมด้วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัย คณะผู้บริหาร เครือข่ายมหาวิทยาลัยภาคใต้ (มรภ.สงขลา มรภ.สุราษฎร์ธานี มรภ.ภูเก็ต มรภ.ยะลา มรภ.นครศรีธรรมราช) ให้การต้อนรับร่วมสานพลังภาคใต้อย่างเข้มแข็ง
สำหรับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ศ.ดร.วิษณุ มีอยู่ รองผู้อำนวยการ สกสว. ได้บรรยายพิเศษในประเด็น “แนวทางการเชื่อมโยงการทำงานเพื่อขับเคลื่อนผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้บรรลุเป้าหมาย SRI for All” ระบุว่า ตลอดการลงพื้นที่แต่ละภูมิภาค สกสว. ได้เห็นอัตลักษณ์ที่ชัดเจนของแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สามารถต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรมได้จริง โดย สกสว. ทำหน้าที่เป็น “ตัวประสานและเร่งรัด” (accelerator) เพื่อให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในสังคมและเศรษฐกิจ และได้ชี้ให้เห็น pain point สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะด้านทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้เชิญผู้แทนจากกรมทรัพย์สินทางปัญญามาร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อช่วยผลักดันให้ผลงานวิจัยสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและสร้างผลกระทบในวงกว้าง รวมถึงแนวคิด Innovation Portfolio ที่ สกสว. กำลังพัฒนา เพื่อยกระดับการนำเสนองานวิจัยสู่ระดับนานาชาติ โดยจะไม่เพียงแค่รวบรวมรายชื่อผลงาน แต่จะนำเสนอเป็นภาพรวมที่สะท้อนศักยภาพของประเทศในการสร้างนวัตกรรม เช่น กลุ่มงานด้านสุขภาพและ wellness ที่สามารถต่อยอดสู่ตลาดต่างประเทศได้
 “หลายคนตั้งคำถามกับ สกสว. และกองทุน ววน. ว่าเงินงบประมาณปีละกว่าสองหมื่นล้านบาทสร้างผลลัพธ์อย่างไร ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนใช้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร หรือเทคโนโลยี ล้วนผ่านกระบวนการวิจัยทั้งสิ้น เพียงแต่ยังไม่ถูกมองเห็นชัดเจน เราทุกคนจึงมีหน้าที่ทำให้สังคมเห็นคุณค่าและความหมายของงานวิจัย ผมเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อขยายผลข้อมูลและสร้างภาพรวมที่ชัดเจนของระบบวิจัยและนวัตกรรมไทย สกสว. พร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า” ศ.ดร.วิษณุ กล่าว
 จากนั้น เข้าสู่การนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงจากกลุ่มมหาวิทยาลัยในเครือข่าย ทปอ. มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลในภาคใต้ 12 องค์กร 
 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เกษตรและอาหาร การแพทย์และสุขภาพ วัฒนธรรมและนวัตกรรมสร้างสรรค์ ยางพารา และฮาลาล ผลงานเด่นได้แก่ Gindy เม็ดอมบรรเทาอาการเมารถ-เมาเรือ และ OZ-P น้ำมันหัวหอมออร์แกนิค ที่ต่อยอดสู่ตลาดและธุรกิจจริง อุทยานวิทยาศาสตร์ สนับสนุนผู้ประกอบการด้วยการฝึกอบรม การเข้าถึงห้องปฏิบัติการและโรงงานต้นแบบ และบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับการพัฒนา 1,494 คน ยื่นคำขอสิทธิบัตร 518 คำขอ และสร้างรายได้จากการใช้ประโยชน์ผลงานกว่า 19 ล้านบาท
 มหาวิทยาลัยทักษิณ มุ่งมั่นผลิตงานวิจัยและนวัตกรรมสังคมที่สร้าง การเปลี่ยนแปลงของสังคมและผลกระทบเชิงบวก เช่น REBLISS PRO HAIR TONIC, ANTI-ACNE SERUM ACNE AND SCAR, PROPOLIS NATURAL BODY CARE: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวหนัง และ ANTI-ACNE SERUM ACNE AND SCAR สารสกัดขมิ้นชันละลายน้ำในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นำเสนอการพัฒนาสูตรและกรรมวิธีสำหรับการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งสารละลายส่วนใสของเชื้อโพรโบโอติกสำหรับผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เพื่อเสริมสร้างความชุ่มชื้นและปรับสมดุลผิว ลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ และเทคโนโลยีการให้ความร้อนด้วยคลื่นไมโครเวฟ
 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพขจัดความยากจน เช่น การพัฒนาระดับการผลิตปลากะพงขาว จังหวัดนราธิวาส เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน จากเศรษฐกิจฐานรากสู่มูลค่าเชิงพาณิชย์ และการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการชุมชน เกาะปูลาโต๊ะบีซู เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าใหม่แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน จากเศรษฐกิจฐานรากสู่มูลค่าเชิงพาณิชย์
 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นำเสนอเทคโนโลยีการผลิตถ่านชีวภาพ (Biochar Production Technology) ช่วยเพิ่มมูลค่าเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ทะลายปาล์ม กะลามะพร้าว และกากกาแฟ ผลิตถ่านชีวภาพที่สามารถปรับปรุงดินและเก็บความชื้น ลดปัญหาภัยแล้ง ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรในจังหวัดชุมพรและระนองให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
 อุทยานวิทยาศาสตร์ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม โดยเชื่อมโยงเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั้ง 16 มหาวิทยาลัยผู้ก่อตั้งและ 44 มหาวิทยาลัยเครือข่ายเพื่อสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีใหม่ พัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมภาคเอกชน และต่อยอดผลงานวิจัยสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม อุทยานฯ ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ห้องปฏิบัติการ โรงงานต้นแบบ และสนับสนุนชุมชนนวัตกรรม ครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เกษตรและอาหาร แพทย์และสุขภาพ วัฒนธรรมและนวัตกรรมสร้างสรรค์ ยางพารา และฮาลาล ผลลัพธ์ย้อนหลัง 5 ปี (ปี 2563–2567) มีผู้ได้รับการพัฒนา 1,494 คน ยื่นคำขอสิทธิบัตร 518 คำขอ อนุญาตใช้สิทธิ 99 ผลงาน และสร้างรายได้รวม 19.4 ล้านบาท
 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งโอกาส” เพื่อการพัฒนาประเทศให้มั่งคั่ง โดยช่วงปี 2563 – 2567 มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณวิจัยรวมกว่า 485.72 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่วิจัย 76 อำเภอ ใน 8 จังหวัด มีบทความตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติ 442 บทความ และในระดับนานาชาติ 416 บทความ มีผลงานทรัพย์สินทางปัญญา เช่น อนุสิทธิบัตร 155 ผลงาน สิทธิบัตรการประดิษฐ์ 4 ผลงาน สิทธิบัตรการออกแบบ 190 ผลงาน และลิขสิทธิ์ 205 ผลงาน และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผู้ประกอบการกว่า 20 ราย ผลักดัน Product Champion 12 ผลิตภัณฑ์ สู่เชิงพาณิชย์ โดยมีผลงานที่นำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์แล้ว 152 ผลงาน นำไปใช้ประโยชน์ทางสังคม ชุมชนและพื้นที่กว่า 776 ผลงาน
 มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นำเสนอโครงการวิจัย “การตรวจสอบคุณภาพซากและการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเนื้อจระเข้เพื่อเพิ่มมูลค่า” มุ่งต่อยอดการเลี้ยงจระเข้ของเกษตรกรไทยเพื่อแก้ปัญหาการจำหน่ายจระเข้มีชีวิต โดยพัฒนาสูตรและกรรมวิธีแปรรูปเป็นแหนมเนื้อจระเข้ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์จากเนื้อจระเข้ แต่ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ และเสริมความมั่นคงให้แก่อุตสาหกรรมการเลี้ยงจระเข้ของไทย
 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (NSTRU) มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัฒนธรรม, เกษตร, และเศรษฐกิจชุมชน โดยได้รับงบประมาณทุนวิจัยกองทุน ววน. รวม 5 ปี 164,806,330 บาท โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ผ่านงานวิจัยและนวัตกรรม เช่น การแปรรูปสะตอสดแกะเมล็ด การผลิตน้ำหวานดอกมะพร้าว และการใช้สีย้อมธรรมชาติในผ้ามัดย้อม พร้อมผลงานทรัพย์สินทางปัญญา 280 ผลงาน และผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียน อย. เพื่อสร้างรายได้ ยกระดับชุมชน ส่งเสริมความยั่งยืน
 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี นำเสนอโครงการวิจัย “การขับเคลื่อนน้ำมังคุดพรีเมียมในฐานะผลไม้ไทยแปรรูปมูลค่าสูงเพื่อการส่งออกในตลาดต่างประเทศ” มุ่งวิเคราะห์และส่งเสริมตลาดน้ำมังคุดพรีเมียมเพื่อการส่งออกไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย ผ่านการสร้างแบรนด์ “มังชา” และ “Sir Al – Hayah” ทำยอดขายรวมกว่า 444,505 บาท ภายใน 1 ปี สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 300,000 บาท นำมังคุดตกเกรดซึ่งเคยถูกทิ้งมาใช้ประโยชน์ได้ 100% ทำให้ราคามังคุดเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 10 บาท เป็น 30 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.33 พร้อมสร้างรายได้เพิ่มกว่า 31,965 บาทต่อปี จากผลิตภัณฑ์น้ำมังคุดพรีเมียมที่มีราคาสูงขึ้นกว่า 500% สร้างการจ้างงานใหม่ไม่น้อยกว่า 40 ตำแหน่ง
 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นำเสนอการศึกษาวิจัย "ส้มควาย" ซึ่งเป็นไม้พื้นถิ่นของจังหวัดพังงาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยนักวิจัยได้ค้นพบว่าส้มควายมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิดที่มีประโยชน์ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ตลอดจนต่อยอดเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์แปรรูปเชิงพาณิชย์ได้ นอกจากนี้ งานวิจัยยังช่วยสร้างองค์ความรู้เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และเป็นการยกระดับพืชพื้นถิ่นสู่การใช้ประโยชน์
 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มุ่งผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ชุมชน สังคม และพื้นที่ ผ่านการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี เช่น ไม้อัดเทียมจากเส้นใยธรรมชาติ วรรณกรรมลูกหยี ลวดลายผ้า และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พร้อมทั้งขยายผลสู่ชุมชนด้วยโครงการเลี้ยงผึ้ง ก๊าซชีวภาพ คราฟท์จากอัตลักษณ์ ข้าวเกรียบปลา ผลิตภัณฑ์จากเชือกกล้วย นาโนเทคโนโลยีกำจัดโรคพืช และสมุนไพร ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้และการจ้างงานกว่า 856 คน รายได้ชุมชนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 70% สะตอมีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่า 3 เท่า และเกิดเครือข่ายอาชีพที่เข้มแข็ง สอดคล้องกับเศรษฐกิจ BCG โดยมีเป้าหมายพัฒนานวัตกรชุมชนและศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและความยั่งยืนของท้องถิ่น.
 ทั้งนี้ สกสว. เชื่อมั่นว่า การประชุม RU Connext จะสะท้อนพลังความร่วมมือของมหาวิทยาลัยทั้งสามกลุ่ม พร้อมต่อยอดสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อให้ผลงานวิจัยของไทยถูกนำไปใช้งานจริง ด้วยการมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ การผลักดันการใช้ประโยชน์งานวิจัยอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจ สังคม และนโยบาย การยกระดับงานวิจัยสู่มาตรฐานสากล และการสร้างคนพันธุ์ใหม่เพื่ออนาคต โดยส่งเสริมศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการนวัตกรรม และนักประดิษฐ์ท้องถิ่นให้ทำงานจริงในพื้นที่ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชนต่อไป

#ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์
Siam Southern News Center Online
0618919424

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์สื่อสร้างสรรค์ เพื่อชาวใต้

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์