ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์

สรุปข่าวงานสัมมนาประจำปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ (สำหรับสื่อมวลชน)

ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ (ธปท. สภต.) ได้จัดงานสัมมนาประจำปี 2567 “แบงก์ชาติกับการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน” ในวันอังคารที่ 3 กันยายน 2567 เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันทางการเงิน ทั้งเรื่องการก่อหนี้ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง และใช้ประโยชน์ของการเงินดิจิทัลด้วยความรู้เท่าทันภัยการเงิน โดยมีผู้ร่วมสัมมนาจากภาคธุรกิจ การเงิน การศึกษา ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป ในงานสัมมนาแบ่งเป็น 5 ช่วง

ช่วงแรก ได้รับเกียรติจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดงานว่าปีนี้มีการปรับการจัดงานให้ตอบโจทย์ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมากขึ้น โดยเหตุผลที่เลือกหยิบยกเรื่องการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ทั้งการให้ลูกหนี้สามารถดูแลสิทธิของตนเองได้เต็มที่ และการสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยการเงิน มาพูดคุยสำหรับภาคใต้ เพราะเป็นภาคที่มีสัดส่วนบัญชีสินเชื่อรายย่อยที่เป็นหนี้เสีย (NPLs) สูงกว่าทุกภูมิภาค อีกด้าน เห็นว่าผู้เสียหายจากภัยทางการเงินของภาคใต้ เฉลี่ยต่อรายสูงกว่าทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพฯ

ช่วงที่ 2 คุณอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท. ได้พูดในหัวข้อ “ครบเครื่องเรื่องคุ้มครองลูกหนี้” โดยเล่าว่า ธปท. ให้ความสำคัญกับการให้บริการของสถาบันการเงินต่อลูกค้าและลูกหนี้อย่างเป็นธรรมตลอดวงจรหนี้ (Debt journey) ตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้ ที่ประชาชนต้องได้ข้อมูลถูกต้อง รู้ต้นทุนและเปรียบเทียบได้ การโฆษณาสินเชื่อต้องไม่กระตุ้นการก่อหนี้เกินควร ระหว่างเป็นหนี้ ลูกหนี้ควรรู้ว่าจะบริหารจัดการหนี้อย่างไร ถ้าจ่ายไม่ไหว จะมีทางออกอย่างไรบ้าง แต่สุดท้ายหากมีปัญหาในการชำระหนี้ เจ้าหนี้ต้องช่วยอะไรบ้าง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมความรู้และทักษะทางการเงินให้กับหลายกลุ่ม เช่น นักเรียน นักศึกษา เพื่อให้มีความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดี ป้องกันการเกิดปัญหาหนี้เกินตัว

ช่วงที่ 3 คุณดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ได้พูดในหัวข้อ “แบงก์ชาติกับการป้องกันภัยการเงิน” โดยเล่าว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ภัยการเงินสร้างความเสียหายในวงกว้าง และมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การสุ่มข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตไปทำธุรกรรม แอปดูดเงิน การหลอกโอนเงินในรูปแบบต่าง ๆ แบงก์ชาติจึงมีมาตรการเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชน เช่น ทำให้ Mobile banking สามารถป้องกันแอปดูดเงินได้ดีขึ้น แต่ยังมีเรื่องการหลอกโอนเงินที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาแบงก์ชาติได้ออกมาตรการจัดการบัญชีม้าเพื่อตัดเส้นทางเดินเงินและต้องดูแลแก้ไขต่อเนื่องให้เท่าทันมิจฉาชีพ 

ช่วงที่ 4 เป็นการพูดคุยตัวอย่างจริงจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องภัยการเงิน ทั้งตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สถาบันการเงิน และแบงก์ชาติ ในหัวข้อ “เสริมภูมิคุ้มกันภัยการเงิน รู้เท่าทัน ป้องกันได้” โดยสิ่งสำคัญคือประชาชนต้องรู้เท่าทันมิจฉาชีพตลอดทั้งวงจรการหลอกลวง (Fraud journey) ตั้งแต่ขั้นป้องกันไม่เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพเข้าถึงตัวเรา การทำธุรกรรมแบบใดที่ทำให้เงินออกจากบัญชี จนถึงเมื่อโดนหลอกจะจัดการอย่างไร ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรไปที่ศูนย์ AOC 1441 หรือแบงก์ชาติ โทร 1213

และช่วงสุดท้าย คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธปท. ได้แนะนำทีมผู้บริหารแบงก์ชาติ 2 ท่าน คุณทัดลาภ เผ่าเหลืองทอง และคุณจิตเกษม พรประพันธ์ ที่จะร่วมสานงานต่อทั้งเรื่องแก้หนี้ เตือนภัยการเงิน และประเด็นอื่นๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่

รับชมย้อนหลังได้ที่นี่

ช่วงที่ 1: ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวเปิดงาน https://youtu.be/UPJfoOB13WE

ช่วงที่ 2: ครบเครื่องเรื่องคุ้มครองลูกหนี้ https://youtu.be/nF3Gsm_SHVc

ช่วงที่ 3: แบงก์ชาติกับการป้องกันภัยการเงิน https://youtu.be/f4eR-bhQdNA

ช่วงที่ 4: เสริมภูมิคุ้มกันภัยการเงิน รู้เท่าทัน ป้องกันได้ https://youtu.be/GFiXj_Nwyzc