ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์

พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่  แถลงผลการปฏิบัติงาน  "เหลียวหลัง แลหน้า ร่วมพัฒนาหาดใหญ่" 

             วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 เวลา 18.00 น. ณ โรงแรมบุรีศรีภูฯ เทศบาลนครหาดใหญ่ โดย พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรี ได้จัดแถลงผลการปฏิบัติงาน "เหลียวหลัง แลหน้า ร่วมพัฒนาหาดใหญ่"  โดยได้เชิญตัวแทนจากสมาคมจีน / สมาคมร้านทอง / มูลนิธิทงเซียเซี่ยงตึ้ง / หอการค้า / YEC / Power of Hatyai / ชมรมนักธุรกิจ / ชมรมชาว เหนือ-อีสาน / ชมรมผู้ค้าปลีก สันติสุข / ชมรมผู้สูงอายุ / ชมรมลีลาส / ชมรมเวียนครก / กลุ่มสตรี / อสม. / สมาคมรถเล็กและมอเตอร์ไซด์ รับจ้าง / โรตารี่หาดใหญ่ / ชมรมศิษย์เก่า ญว. แสงทอง และโรงเรียน ต่างๆ / ศาลเจ้า และอนาถาหาดใหญ่ / ทหาร ตำรวจ และแม่บ้าน ตำรวจนอกราชการ / เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ กลุ่มพี่หลวงคร กลุ่มถูกใจใช่เลย / ผู้บริหาร  สมาชิกสภาเทศบาล / ผู้อำนวยการสำนัก/กอง / ผู้อำนวยการสถานศึกษา / คณะกรรมการสถานศึกษา / พี่น้องตัวแทน จาก 103 ชุมชน และคณะสื่อมวลชน ร่วมรับฟัง

      พล.ต.ท.สาครฯ  กล่าวว่า  วันนี้เป็นวันที่เป็นสิริมงคลของพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ ด้วยเหตุที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้อัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทาน ชนะเลิศเมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืนยอดเยี่ยมกระบวนทัศน์ใหม่ ระดับ ประเทศ ประจำปี 2566 ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่กระผมได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานมา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 เพื่อให้ พี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่อความมุ่งมั่นของผู้บริหารเทศบาล นครหาดใหญ่และเครือข่ายพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ทุกท่านใน การร่วมกันพัฒนาหาดใหญ่สู่เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน

           กระผมจึงขอใช้โอกาสอันเป็นมงคลนี้ แถลงผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาในรอบ 3 ปี 4 เดือน ตั้งแต่ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งนายก เทศมนตรีนครหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เพื่อต้องการ สื่อให้เห็นว่าตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา เทศบาลนครหาดใหญ่ได้ทำอะไร ไปบ้าง และในอนาคตมีเรื่องอะไรที่ต้องสานต่อหรือทำเพิ่มเติมอีกบ้าง โดยการทำงานตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จากการพัฒนา ปรับปรุง สร้างสรรค์ และสานต่องานที่ผู้บริหารท่านก่อนๆ ได้ทำไว้ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิท-19 ที่ต้องเร่งแก้ไข ปัญหา และฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจของเมืองที่เป็นปัญหาเร่งด่วนให้ กลับมาดีเช่นเดิม นับว่าผลการปฏิบัติงานและรางวัลที่ได้รับปรากฏผลออกมาในเชิงประจักษ์และคุ้มค่ากับความทุ่มเทตั้งใจของผู้มีส่วน ร่วมทุกฝ่าย ซึ่งการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนใน เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ภายใต้นโยบายทั้ง 9 ด้าน เป็นสิ่งที่ คณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ได้พยายาม ขับเคลื่อนดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย ภายใต้กลยุทธ์การ ทำงานแบบ 3 ช คือ ชอบ เชื่อ ช่วย ด้วยอุดมการณ์และเจตจำนง อันแน่วแน่ว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งกระผมขออนุญาต สรุปเป็นเรื่องๆ รวมทั้งหมด 14 เรื่อง โดยสังเขป ดังนี้
       1.สู้ภัยโควิท-19 พาหาดใหญ่พ้นวิกฤต กระผมในฐานะผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้พยายาม ทุกวิธีทางเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะ เป็นการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม และชุดตรวจ ATK มาให้บริการแก่ ประชาชนในเขตพื้นที่ ส่งผลให้เทศบาลนครหาดใหญ่เป็นเทศบาล แรกๆ ที่สามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนได้ครอบคลุมถึง 97% ขณะเดียวกันก็ได้แปรวิกฤตเป็นโอกาสในการสานพลังความ ร่วมมือจากชุมชนและองค์กรทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการ ช่วยดูแลผู้ติดเชื้อ ผ่านการจัดการเรื่อง Home Isolation เพื่อก่อให้ เกิดสังคมเอื้ออาทรขึ้นในชุมชนเมือง 
           2. กระตุ้นหนุนเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจเมือง หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิท-19 คลี่คลายลง เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของเมือง เพื่อลบคำสบประมาทที่ว่า “หาดใหญ่ตายแล้ว” ด้วยการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ภายใต้ชื่อโครงการ “Power of Hatyai หาดใหญ่เที่ยวได้ทั้งปี” เพื่อให้นักท่องเที่ยว เกิดความเชื่อมั่นและกลับมาเที่ยวหาดใหญ่อีกครั้ง และอาศัยที่ กระผมเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวมาก่อน กระผมจึงได้ ประสานขอความร่วมมือจากภาคส่วนท่องเที่ยวต่างๆ อาทิเช่น ท่าน พิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและ กีฬา และผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำให้ได้รับงบประมาณ มาจัดกิจกรรมตามช่วงเทศกาลๆ ในพื้นที่มาโดยตลอด 
          3. สานพลังนำหาดใหญ่รอดอุทกภัย เนื่องจากปัญหาอุทกภัยเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดู ฝนของทุกปี เทศบาลนครหาดใหญ่จึงได้บริหารจัดการเพื่อลดความ เสี่ยง โดยใช้แนวคิดเชิงป้องกันเป็นหลัก ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ ทันสมัยในการติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งดำเนินการในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้ 1. การเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนฤดูฝนของแต่ละปี ด้วยการสาน พลังร่วมกับหน่วยงานทหารในการรื้อร่อน ขุดลอก คู คลอง และ วัชพืชไม่ให้กีดขวางทางไหลของน้ำ รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อม ของอุปกรณ์การช่วยเหลือทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับ อนุมัติงบประมาณจากสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ในการจัดซื้อรถ ดูดโคลน ขนาด 10 ล้อ เพิ่ม จำนวน 2 คัน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในการทำงาน 2. การมอบหมายให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ พื้นที่ของตนเอง ทั้งการเฝ้าระวังและจัดเตรียมสถานที่รับรองการ อพยพ โดยการจัดตั้งบ้านพี่เลี้ยงขนาดต่างๆ ในพื้นที่ทั้ง 4 เขต 3. สำรวจจุดเสี่ยงและประเมินประสิทธิภาพของเครื่องสูบน้ำ ในการระบายน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา แต่ด้วยสภาพของเครื่องสูบน้ำที่ ผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 15 ปี ทำให้ไม่สามารถ ใช้งานได้อย่างเต็มที่ กระผมจึงได้อาศัยความสัมพันธ์อันดีกับ ผู้ใหญ่ในรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเสนอของบ ประมาณมาใช้ในการเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำใหม่ ทดแทนของเก่าที่ชำรุดเสียหาย จำนวน 26 เครื่อง 23 สถานี ซึ่งได้รับงบประมาณ มา จำนวน 879 ล้านบาท 
              4.เพิ่มงานบริการประชาชนด้วยการใช้เทคโนโลยี ด้วยความตั้งใจให้หาดใหญ่เป็นเมือง Smart City เทศบาล นครหาดใหญ่จึงได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการ ประชาชน ผ่านแอพพลิเคชั่นเทศบาล และ Line OA เพื่ออำนวย ความสะดวกและลดเวลาในการเดินทางมาติดต่อราชการที่เทศบาล พร้อมทั้งติดตั้ง Free WI-FI ในพื้นที่เมืองบางจุด เพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
              5. แผนปฏิบัติการสร้างหาดใหญ่สู่เมืองสีเขียว เพื่อขยับปรับเปลี่ยนเมืองหาดใหญ่ไปสู่การเป็นเมืองสีเขียว เทศบาลนครหาดใหญ่จึงได้จัดทำโครงการต่างๆ ตามแผนปฏิบัติ การเมืองสีเขียว อาทิเช่น การเปลี่ยนหลอดไฟบนถนนสายต่างๆ จากแบบโซเดียมมาเป็นแบบ LED ครอบคลุมทั้ง 4 เขต จำนวน 5,273 ชุด รวม 551 สาย เพื่อช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจาก การนำถนน 13 สาย ที่เปลี่ยนหลอดไฟแล้วไปเข้าร่วมโครงการ T-ver ทำให้สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ถึง 1,113 ตันคาร์บอน ไดออกไซด์เทียบเท่า และนำเงินที่ได้มาสร้างสถานีชาร์จรถจักรยาน ไฟฟ้าด้วยระบบโซล่าเซลล์ โดยมีเป้าหมายติดตั้งเพิ่มในปี 2568 อีกจำนวน 6,300 ชุด รวม 632 สาย นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งเครื่องตรวจสอบวัดคุณภาพ อากาศทุกวันในพื้นที่สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็น หนึ่งในพื้นที่แหล่งเรียนรู้เรื่องเมืองสีเขียว และได้รับการยอมรับ ว่าเป็นจุดที่มีอากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
 6.หาดใหญ่เมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยการใช้ทุนทางประเพณีวัฒนธรรม อาหาร และแหล่ง ศรัทธา มาเป็นจุดขายในการสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เช่น กิจกรรม Night Paradise และ Hatyai Countdown ในช่วง เทศกาลปีใหม่ / กิจกรรม Chinese New Year ในช่วงตรุษจีน และ กิจกรรม Hatyai Midnight Songkran ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยทั้ง 3 กิจกรรม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 310,000 คน รวมทั้งมีเงินหมุนเวียน ในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 3,400 ล้านบาท และมีอัตราการจองที่พักใน หาดใหญ่สูงกว่า 90% นอกจากนั้นยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพหุวัฒนธรรมใน การสร้างพื้นที่ย่านวัฒนธรรมคนเมือง ภายใต้โครงการ Hatyai China Town บนถนนศุภสารรังสรรค์ และสนับสนุนงบประมาณ ในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ เพื่อยกระดับให้หาดใหญ่เป็นเมือง Wellness Center ของภาคใต้อย่างครบวงจร อีกทั้งได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชุมชนร่วมกับชุมชนบ้านพรุและชุมชนบ้านไร่ โดยการบริหารจัดการ ของชุมชนเอง ซึ่งได้เริ่มชุมชนต้นแบบแรกจาก 9 ชุมชนริมคลองอู่ ตะเภา
              7. เปิดพื้นที่และสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนด้านกีฬา เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมใน เชิงท้าทาย เทศบาลนครหาดใหญ่จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เช่น E-Sport หุ่นยนต์ และจักรยานขาไถ พร้อมทั้งสนับสนุนงบประมาณ ให้แก่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อใช้ใน การแข่งขันกีฬา เช่น ฟุตซอล วอลเลย์บอล และในปี 2567 เทศบาลนครหาดใหญ่ได้สนับสนุนงบ ประมาณในการสร้างลานสะเก็ตบอร์ดสำหรับเด็กและเยาวชนใน พื้นที่สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ และจะริเริ่มให้มีการจัด กิจกรรมวิ่งเทรลเป็นประจำทุกปี
 8.หาดใหญ่เมืองแห่งการเรียนรู้ จากการได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก้ เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ในแหล่งต่างๆ ทั้งในระบบโรงเรียน และนอกระบบโรงเรียน ในด้านประเพณีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สุขภาพ อาหาร และวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยผ่านกลไกการสร้างฐานการเรียนรู้ที่เทศบาลได้สนับสนุน เช่น 1. การใช้ตลาดนัดสุขภาพและศูนย์ชีวาสุข เป็นฐานการเรียนรู้ด้าน อาหารปลอดภัย สุขภาพดี 2. การสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ด้านประเพณีวัฒนธรรม ย่านถนน คนเมืองหาดใหญ่ไชน่าทาวน์ บนเส้นถนนศุภสารรังสรรค์ และ ผ่านกิจกรรมการจัดงานต่างๆ ที่เทศบาลได้อุดหนุนงบประมาณ 3. การสร้างการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของหาดใหญ่ที่ เน้นไปยังเป้าหมายกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยใช้ TK Park เป็น พื้นที่ปฏิบัติการ 4. การสร้างการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ผ่านระบบการศึกษา ทั้ง การแข่งขันหุ่นยนต์จำลองของเด็กนักเรียนและเยาวชน และเปิด ให้บริการหอดูดาว สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ 
             9.สร้างเมืองต้นแบบสุขภาวะคนเมือง เทศบาลนครหาดใหญ่ได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มหาวิทยาลัยศรีวิชัยสงขลา และ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดทำโครงการ พัฒนานครหาดใหญ่เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน และโครงการออกแบบ เมืองสุขภาวะต้นแบบ ด้วยงบประมาณสนับสนุนจาก สสส. โดยได้ ดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายนำร่อง จำนวน 18 ชุมชน และสามารถ สร้างชุมชนต้นแบบในการสร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพได้ 5 พื้นที่ ดังนี้ 1. ชุมชนสุภาพอ่อนหวาน เป็นชุมชนต้นแบบเรื่องการจัดการขยะ 2. ชุมชนศาลาลุงทอง เป็นชุมชนต้นแบบด้านการจัดการพื้นที่ สาธารณะเพื่อการออกกำลังกาย 3. ชุมชนบางหัก เป็นชุมชนต้นแบบด้านการพัฒนาระบบการดูแล ผู้สูงอายุ 4. ศูนย์ชีวาสุข เป็นต้นแบบการทำงานร่วมกับชุมชนและสร้างภาคี เครือข่าย เรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 5. ลานซีกิมหยง เป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างเมืองสุขภาวะ โดย กระบวนการมีส่วนร่วมแบบสานพลังที่มีชุมชนเป็นเจ้าภาพ
 10. การสร้างคุณค่าและจุดขายจากสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง ประกอบด้วย 1. การปรับปรุงภูมิทัศน์วนเวียนน้ำพุ และลานจัตุรัส (หอนาฬิกา) 2. การก่อสร้างซุ้มประตูหาดใหญ่ไชน่าทาวน์ และการปรับภูมิทัศน์ สวนหย่อมท่งเซี่ยเซี่ยงตึ้ง 3. การก่อสร้างซุ้มประตู Halal Street Food 4. การปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 พระพุทธมงคลมหาราช ท้าวมหาพรหม เจ้าแม่กวนอิม ณ สวน สาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ 5. การยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่สวนสาธารณะเทศบาลนคร หาดใหญ่ให้เป็นจุดเช็คอิน ได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์สื่อสร้างสรรค์ เพื่อชาวใต้

ศูนย์ข่าว สยามปักษ์ใต้ออนไลน์